thailandtravel thailandtravel thailandtravel thailandtravel thailandtravel thailandtravel
thailandtravel
Home
ภาคเหนือ
ประวัติ
สถานที่เที่ยว
>
วัดร่องขุ่น
พระธาตุดอยตุง
ท่าขี้เหล็ก
ภูชี้ฟ้า
สามเหลี่ยมทองคำ
ดอยแม่สลอง
ถนนคนเดิน
ร้าน IBERRY
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
อุทยานหลวงราชพฤกษ์
อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
กว๊านพะเยา
นิมมานเหมินทร์
ภาคอีสาน
ประวัติ
สถานที่เที่ยว
>
วัดร่องขุ่น
ผาแต้ม
อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ
หอไตรหนองขุหลุ
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียง
มอหินขาว
พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน
พระธาตุพนม
อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี
จุดชมวิวแม่น้ำโขง
ภาคใต้
ประวัติ
สถานที่เที่ยว
>
เกาะพีพีดอน
สระมรกต
หาดยาว
เกาะไผ่
เกาะลันตาใหญ่
สุสานหอยสี่สิบล้านปี
ถ้ำไวกิ้ง
หาดป่าตอง
หาดสมิหลา
แหลมพรหมเทพ
ภูเขาหญ้า
สวนโมกขพลาราม
เกาะพะงัน
หาดใหญ่
ภาคกลาง
ประวัติ
สถานที่เที่ยว
>
สะพานพระราม 9
พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระนั
สวนสัตว์ดุสิตเขาดิน
อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
สวนหลวง ร.๙
พระที่นั่งวิมานเมฆและพิพิธภัณฑ์รถม้า
สนามหลวง
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม
พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย
พระปฐมเจดีย์ วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาว&
อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ อุบลราชธานี
มีพื้นที่ประมาณ 50,000 ไร่ ในเขตอำเภอสิรินธรและอำเภอโขงเจียมภูมิประเทศเป็นที่ราบสูงและเนินเขาเตี้ยๆ สภาพป่าทั่วไปเป็นป่าแพะหรือป่าแดงต้นไม้ในป่ามีลักษณะแคระแกรน บางส่วนเป็นทุ่งหญ้าได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2524 ที่ทำการอุทยานฯตั้งอยู่ริมแม่น้ำมูลบริเวณแก่งตะนะ การเดินทางสามารถไปได้สองเส้นทางคือใช้ทางหลวงหมายเลข 217 (อุบลราชธานี-พิบูลมังสาหาร-ช่องเม็ก ประมาณ 75 กิโลเมตร)แล้วแยกซ้ายไปตามเส้นทาง 2173 อีก 13 กิโลเมตรส่วนอีกเส้นทางหนึ่งคือใช้ทางหลวงหมายเลข 2222 ผ่านอ.โขงเจียมประมาณ 4 กิโลเมตรแล้วข้ามแม่น้ำมูลไปอีก 12 กิโลเมตรหรืออาจใช้เส้นทางที่ข้ามสันเขื่อนปากมูลก็ได้(กรณีที่เขื่อนเปิด) ในเขตอุทยานฯมีสถานที่ท่องเที่ยวดังนี้
ดอนตะนะ เป็นดอนหรือเกาะที่เกิดขวางแม่น้ำมูลมีความกว้างประมาณ 450 เมตร ยาวประมาณ 700 เมตร มีสะพานแขวนทอดข้ามทั้ง 2 ด้านของเกาะทางตอนเหนือของดอนตะนะมีหาดทรายเหมาะแก่การพักผ่อนบนดอนตะนะยังมีป่าอยู่ทั่วไปเป็นสภาพป่าดงดิบแล้งมีต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่นในช่วงเช้าและช่วงเย็นจะมีการทำประมงของชาวบ้านรอบๆเกาะ
แก่งตะนะเป็นแก่งกลางลำน้ำมูลที่ใหญ่ที่สุดกลางแก่งตะนะมีโขดหินมหึมาเป็นเกาะกลางลำน้ำมูลที่เกิดจากลำน้ำมูลทั้งสองสายที่เชี่ยวกรากและจะกัดเซาะลงในแนวหินสูงประมาณ1 เมตร ถ้าสังเกตเกาะกลางแก่งตะนะจะเห็นสิ่งก่อสร้างรูปสี่เหลี่ยมซึ่งสร้างขึ้นในสมัยฝรั่งเศสยังล่าอาณานิคมเพื่อใช้เป็นเครื่องชี้ร่องน้ำในการเดินเรือนอกจากนี้ยังมีโพรงถ้ำใต้น้ำหลายแห่งจึงทำให้มีปลามาอาศัยบริเวณแก่งตะนะชุกชุมช่วงที่เหมาะในการไปเที่ยวคือเดือนมกราคม-พฤษภาคมจุดชมวิวแก่งตะนะที่บริเวณที่ทำการอุทยานฯ นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวแก่งตะนะฝั่งซ้าย(อีกด้านหนึ่งของแม่น้ำมูล) ที่บริเวณทางไปถ้ำเหวสินธุ์ชัย
สะพานแขวนเป็นสะพานที่เชื่อมจากฝั่งแม่น้ำมูลดอนตะนะโครงสร้างเป็นเหล็กยึดโยงด้วยลวดสลิงขนาดใหญ่ซึ่งเป็นจุดชมวิวสองฟากฝั่งของแม่น้ำมูลเหนือแก่งตะนะและใช้เดินข้ามเข้าไปชมธรรมชาติบนดอนตะนะได้อย่างเพลิดเพลิน
ถ้ำพระหรือถ้ำภูหมาในเป็นชะง่อนผายื่นออกจากฝั่งแม่น้ำมูล อดีตเคยมีพระพุทธรูปทองคำเงินและไม้เป็นจำนวนมากแต่ใน ปัจจุบันได้หายไปแล้วมีแท่นศิวลึงค์(ฐานโยนี)และแนวอิฐซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างในราวศตวรรษที่ 12-13
ลานผาผึ้งเป็นพลาญหินทรายและเป็นหน้าผาชันโดยหน้าผาจะหันหน้าสู่ด้านทิศตะวันออกเหมาะแก่การชมวิวช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและสามารถมองวิวประเทศลาวได้ลานผาผึ้งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯประมาณ 1.5 กิโลเมตรรถยนต์เข้าถึงหรือจะเดินเท้าตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติเลียบฝั่งแม่น้ำมูลได้เช่นกัน
เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกรากไทร อยู่บริเวณหน้าผาริมแม่น้ำมูลห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวประมาณ 500 เมตร มีเส้นทางเดินเลียบผาระยะทางประมาณ1 กิโลเมตร ผ่านจุดชมพืชพันธุ์ ไลเคนส์ มอส เฟิร์น ถ้ำพระและน้ำตกรากไทรเหมาะสำหรับการเดินป่าชมธรรมชาติในช่วงเวลาสั้นๆ
น้ำตกตาดโตน ตั้งอยู่บนทางหลวงหมายเลข 2173 ซึ่งแยกจากทางหลวงหมายเลข 217 เข้าไปประมาณ 6 กิโลเมตรเป็นน้ำตกที่มีความสวยงามมากแห่งหนึ่ง เกิดจากลำห้วยตาดโตนไหลผ่านลานหินแล้วตกลงสู่ที่ลุ่ม เกิดเป็นแอ่งน้ำสามารถลงเล่นน้ำได้มีน้ำเย็นใสสะอาดบริเวณโดยรอบเป็นป่าไม้และดอกไม้นานาพรรณ